อ่านรักวันโลกร้าว นวนิยายแปลเพียงไม่กี่เล่มที่ทำเราเสียน้ำตา และไม่อาจตัดสินใจว่าหากเรานเป็นเขาหรือเธอ เราควรจะทำอย่างไร (รีวิวนี้ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
อ่านรักวันโลกร้าว หรือ DER VORLESER นวนิยายแปลจากภาษาเยอรมัน ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อ The Reader ซึ่งเป็นชื่อนวนิยายในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ
ครั้งแรกที่ได้หยิบหนังสือ อ่านรักวันโลกร้าว ขึ้นมาอ่าน เราไม่รู้เรื่องย่อใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว เนื่องด้วยหนังสือเล่มนี้เป็นงาน ไม่ได้ซื้อมาอ่านเอง ดังนั้นก็เลยไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ชื่อภาษาไทย ไม่เคยเห็นปกหนังสือ ไม่เคยรู้เรื่องย่อใด ๆ เลย มันเหมือนกำลังก้าวเข้าสู่โลกที่เราไม่รู้อะไรเลย และคาดหวังอะไรไม่ได้เลย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะชอบหนังสือเล่มนี้ขนาดนี้
เมื่อแรกเริ่มอ่าน อ่านรักวันโลกร้าว ดูเหมือนจะเป็นนวนิยายรักต่างวัยของฮันนา หญิงสาวตรวจตั๋วรถรางวัย 36 ปี กับมิชาเอล หนุ่มน้อยวัย 15 ปี ผู้ป่วยโรคดีซ่านที่วันหนึ่งฮันนาได้ช่วยเหลือเขาไว้ แล้วจากนั้นก็กลายเป็นความรักต่างวัยที่อบอวลไปด้วยความรักและความลุ่มหลง กลายเป็นรักและความลับไปพร้อม ๆ กัน
พวกเขาดูรักกันมาก อายุไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พวกเขากังวล พวกเขานัดพบกันบ่อยขึ้น พวกเขาวางแผนไปเที่ยวเมืองอื่น พวกเขาทุ่มเทความรักให้กันและกัน
ทุกครั้งที่พบกัน มิชาเอลจะอ่านหนังสือให้ฮันนาฟัง เธอก็ชอบให้มิชาเอลอ่านหนังสือให้ฟังเป็นอย่างมาก พวกเขาใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น หนังสือหลายเล่มถูกอ่าน บทสนทนาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งวันหนึ่งมิชาเอลผู้ซึ่งหยุดเรียนไปนานเนื่องจากต้องรักษาอาการป่วยก็เริ่มมีเพื่อนมากขึ้น มีแก๊งเพื่อนสนิท มีเพื่อนสาวคนสวยที่ดูเหมือนจะสนใจเขา เขาเริ่มให้เวลากับเพื่อนมากขึ้น แล้ววันหนึ่งฮันนาก็หายไปจากชีวิตเขาโดยไม่มีการบอกลาใด ๆ แม้แต่น้อย
เวลาหมุนเวียนพาไปหลายปี เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ชีวิตมิชาเอลก็ต้องดำเนินต่อไป ภายนอกอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับฮันนา
แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เขาได้เจอกับฮันนาอีกครั้ง ในที่ที่เขาก็ไม่คาดคิด ฮันนาถูกนำตัวขึ้นศาลเกี่ยวกับอาชญกรรมสงคราม ขณะที่มิชาเอลเป็นนักศึกษาด้านกฎหมาย ไปเข้าร่วมสังเกตการณ์การไต่สวน
มิชาเอลพบบางอย่างที่ไม่สมเหตุผล แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดมันหรือไม่ หากเขาพูดมันออกไป…มันจะช่วยให้ฮันนารอดพ้นจากสิ่งที่ถูกกล่าวหา แต่…สิ่งนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ฮันนาไม่ต้องการให้โลกใบนี้รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ต้องการให้มิชาเอลรู้
พอละ ไม่เล่าต่อแล้วค่ะ ให้ไปอ่านกันต่อใน อ่านรักวันโลกร้าว เองดีกว่า จะได้ซึมซับทุกอารมณ์ความรู้สึกได้ทุกเม็ด
ฉากที่เราชอบมากคือฉากที่มิคาเอลปรึกษาพ่อว่าควรทำยังไงกับเรืองความลับที่เขารู้ เป็นความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา และเป็นสิ่งที่เราพยายามจะยึดเอาไว้เป็นหลักในการใช้ชีวิตเช่นกัน
การบรรยายสิ่งต่าง ๆ ในเรื่องนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่เราประทับใจมาก โดยเฉพาะฉากในห้องทำงานของพ่อมิชาเอลในวันที่เขาไปปรึกษาเรื่องความลับของฮันนา (ฉากที่เราชอบที่สุดนี่แหละ) เราชอบการบรรยายถึงวิวนอกหน้าต่างที่มันสวยสุดใจจน หน้าต่างนั้นเหมือนกรอบรูปที่จับภาพที่สวยงามเอาไว้ตรงนั้น อยากมีหน้าต่างที่จับภาพวิวอันสวยงามเหมือนรูปถ่ายเอาไว้บ้าง
ส่วนฉากที่ทำให้เราน้ำตาไหลกลับไปฉากที่มิชาเอลคิดออกว่าความลับของฮันนาคืออะไร มันอัดแน่นไปด้วยความคาดไม่ถึง ความหวาดกลัว ความกังวล ความสิ้นหวัง การอยากเป็นที่รัก และความเจ็บปวดที่ทั้งหมดที่หมุนวนในหัวมานานกระโจนใส่คุณในครั้งเดียว ทุกอย่างถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองเปิดใจให้กับ อ่านรักวันโลกร้าว เล่มนี้นะคะ ดำเนินเรื่องดี ไม่งง สะท้อนความเจ็บของผู้คนช่วงยุคสงครามโลกได้ดี และบทสรุปที่คุณไม่อาจคาดเดาและไม่อาจตัดสินตัวละครในเรื่องได้เลย
จนถึงตอนนี้…เรายังไม่รู้เลยว่า หากเราเป็นมิชาเอล เราจะเลือกแบบไหนดี แล้วหากเราเป็นฮันนา เราจะเลือกทำแบบนั้นหรือเปล่า
ข้อมูลหนังสือ
เขียนโดย Bernha Schlink
แปลโดย เจนจิรา เสรีโยธิน
จำนวนหน้า 156 หน้า
ราคา 270 บาท
สำนักพิมพ์ Library House
สามารถสั่งซื้ออ่านลิงก์ด้านล่างได้เลยนะคะ เป็นลิงก์ Affiliate ที่จะจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับเราเมื่อมีคนมาสั่งซื้อผ่านลิงก์ค่ะ ราคาสินค้าเท่าเดิม คุณไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และได้ช่วยสนับสนุนเว็บไซต์ของเราด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนนะคะ
